วิธีเลือกซื้อปุ๋ยให้เหมาะสมกับดิน และคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป
ปุ๋ย คือ วัสดุที่มีธาตุอาหารพืชเป็น องค์ประกอบหรือสิ่งมีชีวิตที่ก่อให้ เกิดธาตุอาหารพืช เมื่อใส่ลงไปในดิน แล้วจะปลดปล่อยหรือสังเคราะห์ ธาตุอาหารที่จำเป็นให้แก่พืช ดินที่มีความอุดม สมบูรณ์สูงจึงต้องการธาตุอาหารพืชเพิ่ม เติมจากปุ๋ยน้อยกว่าดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ
ปุ๋ยแบ่งได้ 4 ประเภทดังนี้
- ปุ๋ยเคมี คือ สารประกอบอนินทรีย์ที่ให้ธาตุ อาหารพืช เป็นสารประกอบที่ผ่านกระบวนการผลิตทาง เคมี เมื่อใส่ลงไปในดินที่มีความชื้นที่เหมาะสมจะละลาย ให้พืชดูดไปใช้ประโยชน์ได้อย่างรวดเร็ว
- ปุ๋ยอินทรีย์ คือ สารประกอบที่ได้จากสิ่งมีชีวิต ได้แก่ พืช สัตว์ จุลินทรีย์ ฯลฯ ผ่านกระบวนการผลิตทาง ธรรมชาติ ปุ๋ยอินทรีย์ส่วนใหญ่ใช้ในการปรับปรุงสมบัติทาง กายภาพของดิน ทำให้ร่วนซุย ระบายน้ำ และถ่ายเท อากาศได้ดี รากพืชชอนไชไปหาธาตุอาการได้ง่าย
- ปุ๋ยอินทรีย์มี 3 ประเภท คือ ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก และปุ๋ยพืชสด
ปุ๋ยอินทรีย์มีปริมาณธาตุอาหารพืชน้อยเมื่อเปรียบ เทียบกับปุ๋ยเคมี และธาตุอาหารพืชส่วนใหญ่อยู่ในรูปของ สารประกอบอินทรีย์ เช่น ไนโตรเจนอยู่ในสารประกอบ จำพวกโปรตีน เมื่อใส่ลงไปในดินพืชจะไม่สามารถดูดไปใช้ ประโยชน์ได้ทันที ต้องผ่านกระบวนการย่อยสลายของจุลินทรีย์ในดิน แล้วปลดปล่อยธาตุอาหารเหล่านั้นออก มาในรูปสารประกอบอนินทรีย์ เช่นเดียวกันกับปุ๋ยเคมี จากนั้นพืชจึงดูดไปใช้ประโยชน์ได้
- ปุ๋ยอินทรีย์มี 3 ประเภท คือ ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก และปุ๋ยพืชสด
- ปุ๋ยชีวภาพ คือ ปุ๋ยที่ประกอบด้วยจุลินทรีย์ที่ยัง มีชีวิตอยู่และมีคุณสมบัติพิเศษ สามารถสังเคราะห์ สารประกอบธาตุอาหารพืชได้เอง หรือสามารถเปลี่ยน ธาตุอาหารพืชที่อยู่ในรูปที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อพืช ให้มาอยู่ ในรูปที่พืชสามารถดูดไปใช้ประโยชน์ได้
- ปุ๋ยชีวภาพแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ กลุ่ม จุลินทรีย์ที่สามารถสังเคราะห์สารประกอบธาตุอาหารพืช ไนโตรเจนได้เอง ได้แก่ ไรโซเบียมที่อยู่ในปมรากพืชตระกูล ถั่ว แฟรงเคียที่อยู่ในปมของรากสนทะเล สาหร่ายสีเขียว แกมน้ำเงินที่อยู่ในโพรงใบของแหนแดงและยังมีจุลินทรีย์ ที่อาศัยอยู่ในดินอย่างอิสระอีกมากที่มีความสามารถ ในการตรึงไนโตรเจนจากอากาศให้แก่พืชได้เช่นกัน และ อีกประเภทหนึ่ง คือ กลุ่มจุลินทรีย์ที่ช่วยทำให้ธาตุอาการ พืชในดินละลายออกมาเป็นประโยชน์ต่อพืชมากขึ้น เช่น ไมคอร์ไรซาที่ช่วยให้ฟอสฟอรัสที่ถูกตรึงอยู่ในดินละลาย ออกมาอยู่ในรูปที่พืชดูดไปใช้ประโยชน์ได้
- ปุ๋ยชีวภาพแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ กลุ่ม จุลินทรีย์ที่สามารถสังเคราะห์สารประกอบธาตุอาหารพืช ไนโตรเจนได้เอง ได้แก่ ไรโซเบียมที่อยู่ในปมรากพืชตระกูล ถั่ว แฟรงเคียที่อยู่ในปมของรากสนทะเล สาหร่ายสีเขียว แกมน้ำเงินที่อยู่ในโพรงใบของแหนแดงและยังมีจุลินทรีย์ ที่อาศัยอยู่ในดินอย่างอิสระอีกมากที่มีความสามารถ ในการตรึงไนโตรเจนจากอากาศให้แก่พืชได้เช่นกัน และ อีกประเภทหนึ่ง คือ กลุ่มจุลินทรีย์ที่ช่วยทำให้ธาตุอาการ พืชในดินละลายออกมาเป็นประโยชน์ต่อพืชมากขึ้น เช่น ไมคอร์ไรซาที่ช่วยให้ฟอสฟอรัสที่ถูกตรึงอยู่ในดินละลาย ออกมาอยู่ในรูปที่พืชดูดไปใช้ประโยชน์ได้
- ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ คือ ปุ๋ยอินทรีย์ที่ผ่าน กระบวนการผลิตที่ใช้อุณหภูมิสูงถึงระดับที่สามารถฆ่า เชื้อจุลินทรีย์ทั้งที่เป็นโรคพืช โรคสัตว์ และโรคมนุษย์ รวมทั้งจุลินทรีย์ทั่วๆไปด้วย จากนั้นจึงนำจุลินทรีย์ที่มี คุณสมบัติเป็นปุ๋ยชีวภาพที่เลี้ยงไว้ในสภาพปลอดเชื้อมา ผสมกันกับปุ๋ยอินทรีย์ดังกล่าว และทำการหมักต่อไปจน กระทั่งจุลินทรียืที่ใส่ลงไปในปุ๋ยหมักมีปริมาณคงที่ จุลินทรีย์เหล่านี้นอกจากจะช่วยตรึงไนโตรเจนให้แก่พืช แล้ว ยังช่วยผลิตสารฮอร์โมนพืชเพื่อกระตุ้นการเจริญ เติบโตของรากพืช และจุลินทรีย์บางชนิดยังสามารถ ควบคุมโรคพืชในดินและกระตุ้นให้พืชสร้างภูมิคุ้มกันโรค ได้อีกด้วย
การเลือกซื้อปุ๋ยให้คุ้มค่า
เกษตรกรโดยทั่วไปมักตัดสินใจในการเลือกซื้อปุ๋ย โดยมักพิจารณาจากราคาต่อกระสอบเป็นหลัก กระสอบ เท่าๆกัน กระสอบใดถูกกว่าก็มักเลือกซื้อ ปุ๋ยกระสอบนั้น วิธีการนี้เป็นเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้อง การเลือกซื้อปุ๋ยที่มี ประสิทธิภาพ และคุ้มค่าจะต้องได้ธาตุอาหารพืชคุ้มค่า กับเงินที่จ่ายซื้อปุ๋ย ให้ใช้วิธีการคำนวณเปรียบเทียบราคา ของปุ๋ยต่อน้ำหนักธาตุอาหารพืช 1 หน่วย (กก.) ตัวอย่าง เช่น
การเปรียบเทียบราคาปุ๋ย 46-0-0 และปุ๋ย 21-0-0
- ปุ๋ย 46-0-0 ราคาตันละ 13,400 บาท
วิธีคำนวณ
ปุ๋ย 46-0-0 หมายความว่า ปุ๋ย 1,000 กก. มีไนโตรเจน 460 กก. ราคา = 13,400 บาท เพราะฉะนั้นไนโตรเจน 1 กก. ราคา =13,400 /460 = 29.10 บาท
- ปุ๋ย 21-0-0 ราคาตันละ 8,000 บาท
วิธีคำนวณ
ปุ๋ย 21-0-0 หมายความว่า ปุ๋ย 1,000 กก. มีไนโตรเจน 210 กก. ราคา = 8,800 บาท เพราะฉะนั้นไนโตรเจน 1 กก. ราคา = 8,000 / 210 = 38.10 บาท
สรุป
ดังนั้น ปุ๋ย 21-0-0 จึงมีราคาแพงกว่าปุ๋ย 46-0-0
การเปรียบเทียบราคาปุ๋ย 15-15-15 และปุ๋ย 16-20-0
- ปุ๋ย 15-1515 ราคาตันละ 12,000 บาท
วิธีคำนวณ
ปุ๋ย 15-15-15 หมายความว่า ปุ๋ย 1,000 กก. มีธาตุอาหารพืช 450 กก. ราคา = 12,000 บาท เพราะฉะนั้นธาตุอาหาร 1 กก. ราคา = 12,000/450 = 26.60 บาท
- ปุ๋ย 16-20-0 ราคาตันละ 11,000 บาท
วิธีคำนวณ
ปุ๋ย 16-20-0 หมายความว่า ปุ๋ย 1,000 กก. มีธาตุอาหารพืช 360 กก. ราคา = 11,00 บาท เพราะฉะนั้นธาตุอาหาพืช 1 กก. ราคา = 11,000/360 = 30.50 บาท
สรุป
ดังนั้น ปุ๋ย 16-20-0 จึงมีราคาแพงกว่าปุ๋ย 15-15-15
การคำนวณราคาธาตุอาหารพืชในปุ๋ยอินทรีย์
- ปุ๋ยอินทรีย์ (2-1-1) ราคาตันละ 3,000 บาท
วิธีคำนวณ
ปุ๋ยอินทรีย์ 1,000 กก. มีธาตุอาหารพืช 40 กก. ราคา = 3,000 บาท เพราะฉะนั้นธาตุอาหาพืช 1 กก. ราคา = 3,000/40 = 75 บาท
สรุป
ดังนั้น เมื่อเปรียบเทียบราคาต่อหน่วยธาตุอาหาร พืชปุ๋ยอินทรีย์จะมีราคาแพงกว่าปุ๋ยเคมี ส่วนธาตุอาหาร ทั้งหมด 40 กก. ในปุ๋ยอินทรีย์ 1 ตัน พืชไม่สามารถนำไปใช้ ประโยชน์ทั้งหมดได้ทันที ต้องผ่านกระบวนการย่อยสลาย ของจุลินทรีย์เปลี่ยนจากรูปอินทรีย์สารเสียก่อนพืชจึงดูด ไปใช้ได้ ซึ่งอัตราย่อยสลายนี้ช้ามาก ปุ๋ยอินทรีย์จึงปลด ปล่อยธาตุอาหารพืชออกมาในปีแรกเพียงร้อยละ 12-20
ที่มา : คู่มือสำหรับเกษตรกรยุคใหม่ธรรมชาติของดินและปุ๋ย ศ.ดร. ทัศนีย์ อัตตะนันทร์ ดร. ประทีป วีระพัฒนนิรันดร์สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 1-12 กรมพัฒนาที่ดิน ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กทม 10900